วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

3 สเต็ปง่ายๆในการเลือกผ้าปูที่นอนให้กับบ้านคุณ

3 สเต็ปง่ายๆในการเลือกผ้าปูที่นอนให้กับบ้านคุณ


ผ้าปูที่นอนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การนอนให้กับคุณ ซึ่งหลายคนอาจเคยเจอปัญหาที่ไม่สามารถเลือกผ้าปูที่นอนที่มันเหมาะสมกับตัวเองได้ เพราะในท้องตลาดก็มีผ้าปูที่นอนมากมายหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกสรร แต่ที่น่าตกใจคือ ราคาของผ้าปูที่นอนบางประเภทนั้นมีราคาที่สูงจนคุณนึกไม่ถึง แล้วผ้าปูที่นอนแบบไหนล่ะ ที่เหมาะกับคุณ วันนี้เรามี 3 ขั้นตอนมาเป็นเคล็ดลับตัวช่วยให้คุณเลือกซื้อผ้าปูที่นอนที่ถูกใจได้อย่างง่ายๆ

Step 1 เลือกขนาดของผ้าปูที่นอนให้ตรงกับขนาดที่นอน
สำรวจที่นอนและเตียงของเรานั้นว่ามันมีขนาดเท่าไหร่ เมื่อเราทราบขนาดของที่แน่นอนแล้ว ก็มาเริ่มเลือกผ้าปูที่ขนาดเหมาะพอดีกับที่นอน ไม่ควรเลือกใช้ผ้าปูที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าที่นอน เพราะจะทำให้ผ้าไม่เรียบตึง เมื่อใช้งานจริงแล้วยังทำให้ผู้นอนนั้นรู้สึกไม่สบายตัว ขณะนอนหลับอีกด้วย

ในเมืองไทยส่วนมาก มีขนาดผ้าปูที่นอน ดังนี้
      • Single fitted sheet 42 X 78 นิ้ว (3.5 X 6.5 ฟุต)
      • Queen fitted sheet 60 X 78 นิ้ว (5 X 6.5 ฟุต)
      • King fitted sheet 72 X 78 นิ้ว (6 X 6.5 ฟุต)

ผ้าปูที่นอนนั้นจะมี 2 แบบที่เป็นตามมาตรฐาน ก็คือ แบบรัดมุม(มียางยืด) และแบบไม่รัดมุม

Step 2 เลือกเนื้อผ้าในแบบที่ใช่
หลังจากทราบขนาดของที่นอนแล้ว ต่อมา เราจะมาดูกันในส่วนของตัวเนื้อผ้า (ปูที่นอน) ซึ่งถือเป็นส่วนไฮไลท์ที่สำคัญ ชนิดของเนื้อผ้าที่แตกต่างกันจะมีผลต่อคุณภาพของผ้าปูโดยตรง โดยท้องตลาดในปัจจุบันนี้มีเนื้อผ้าให้เลือกหลากหลาย อาทิ

ผ้าฝ้าย (Cotton)
เป็นเนื้อผ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเนื้อผ้ามีความนุ่มสบาย และเป็นเส้นใยที่ได้มาจากธรรมชาติ ถ่ายเทอากาศได้ดี ทำให้ไม่รู้สึกร้อนขณะที่เรานอนหลับ ทั้งยังมีความคงทนและมีหลากหลายราคาให้เลือกซื้อ ผ้าฝ้ายที่เชื่อกันว่าเป็นเนื้อผ้าที่มีคุณภาพดีที่สุด ได้แก่ Egyptian cotton และ Pima cotton ซึ่งมีเส้นใยเหนียวแน่นและทนทาน สำหรับใครที่มองหาผ้าปูที่นอนที่ดูแลรักษาง่าย แนะนำให้เลือกเนื้อผ้าที่ทำจากฝ้าย

ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ (Poly-cotton)
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ถึงแม้จะไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเทียบเท่าผ้าฝ้ายแท้แล้ว แต่ฝ้ายผสมใยสังเคราะห์นี้จะยับได้ยากกว่าผ้าฝ้ายแท้ และราคาที่ถูกกว่า

ผ้าซาติน (Satin)
ผ้าซาตินนั้น มีจุดเด่นที่ให้ความรู้สึกนุ่มเรียบลื่น เย็นสบายผิว และดูหรู แต่ผ้าชนิดนี้มีข้อเสียตรงที่อาจจะค่อยไม่ทนทานเท่าผ้าชนิดอื่นๆ

ผ้าไหม (Silk)
แม้จะเป็นผ้าที่ให้ความรู้สึกหรู นุ่มละมุน แต่ข้อเสียของผ้าไหมแบบนี้ คือไม่ทนทานเท่าผ้าชนิดอื่นๆ ทำความก็สะอาดยาก และมีราคาที่สูง นิยมให้เป็นของขวัญสำหรับคู่แต่งงานใหม่

ผ้าสักหลาด (Flannel)
ผ้าสักหลาดนั้น ทำมาจากขนสัตว์ผสมกับฝ้ายหรือใยสังเคราะห์ ให้ความอบอุ่นได้อย่างมากในฤดูหนาว แต่ผ้าชนิดนี้จะไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยซักเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากมีอากาศร้อน

นอกจากนี้ ชนิดผ้าที่แตกต่างกันซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของผ้าปูที่นอนที่แตกต่างกันไปแล้ว ความหนาแน่นของเส้นด้ายในการถักทอก็มีผลต่อราคาและคุณสมบัติของผ้าปู โดยผ้าปูที่นอนคุณภาพดีควรมีความหนาแน่นของเส้นด้ายในการทักถอม (Thread count)

Thread count
เป็นตัวบอกจำนวนของเส้นด้ายที่ทอขึ้นเป็นผ้าต่อหนึ่งตารางนิ้ว ผ้าปูที่นอนส่วนใหญ่นั้นมีจำนวนเส้นด้ายอยู่ที่ 180-300 เส้น โดยถ้า thread count มีค่าที่สูงขึ้นจะทำให้ผ้ามีความนุ่มมากขึ้น รวมถึงราคาที่แพงขึ้นด้วย เนื้อผ้าที่ดีนั้น เส้นด้ายในการทอนั้นต้องทอไม่ต่ำกว่า 350 เส้นด้ายต่อ 10 เซ็นติเมตร จะทำให้ผ้าปูที่นอนนั้นมีคุณภาพ
หลายคนมักจะเข้าใจว่า thread count ที่สูงจะมีคุณภาพดี แต่ในความเป็นจริงนั้น คุณภาพที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าด้วย เช่น ผ้าที่มี thread count สูงแต่ผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน อาจไม่ให้ความนุ่มและความสบายมากเท่ากับผ้าชนิดที่ดีกว่าได้

Step 3 เลือกสีที่ถูกใจ
เชื่อหรือไม่ว่า โทนสีนั้น มีส่วนอย่างมากต่อสภาวะอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผ้าปูที่นอนสีต่างๆ เรามาดูกันว่า สีไหนส่งผลในด้านใดกันบ้าง

โทนสีเย็น
สีฟ้า เป็นสีที่เหมาะแก่การนอนหลับพักผ่อนมากสุด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังทำให้นอนหลับสบาย

สีเขียว ทำให้รู้สึกเราสงบ ผ่อนคลาย และจิตใจให้สดชื่น

สีม่วง เป็นสีกลางระหว่างโทนร้อนกับโทนเย็น ไว้สำหรับห้องนอนเด็ก ผ้าปูที่นอนที่เป็นสีม่วงนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

สีดำ ผ้าปูที่นอนสีดำจะทำให้ผู้อาศัยรู้สึกร้อนและจำกัดความกว้างของห้อง ห้องที่มีขนาดเล็กจึงไม่ควรที่จะใช้ แต่สำหรับห้องโล่งกว้างผ้าปูสีดำก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดูเก๋ไปอีกแบบ

สีขาว ถือเป็นสีเบสิคของผ้าปูที่นอน เป็นสีทีให้ความรู้สึกสบายตา เหมาะสำหรับห้องนอนของทุกเพศ ทุกวัย

โทนสีอุ่น
สีแดง เป็นสีที่เพิ่มพลังงานในร่างกายและช่วยในการไหลเวียนสูบฉีดโลหิต สำหรับคนที่รู้สึกซึมเศร้า หดหู่ ผ้าปูที่นอนสีแดงจะช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นได้

สีส้ม เป็นสีที่ให้ผลใกล้เคียงกับสีแดง คือช่วยให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายขึ้น

สีเหลือง ทำให้ห้องสว่างขึ้น สำหรับผู้สูงอายุ ที่สายตาไม่ค่อยดี ผ้าปูที่นอนสีเหลืองอ่อนเป็นตัวเลือกที่เหมาะ


       จาก 3 ขั้นตอนง่ายๆ ข้างต้นคงพอจะเป็นไอเดียในการซื้อผ้าปูที่นอนให้กับคุณได้บ้าง ทีนี้ก็ได้เวลาออกไปเลือกแบบที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ แล้วพักผ่อนกันให้สบายได้เลย

 สามารถติดตาม ซื้อขายบ้าน ได้ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น