วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ซื้อโครงการบ้านใหม่ก่อน แล้วผ่อนทีหลัง หรือ เก็บเงินก่อน ค่อยซื้อ ดีนะ?

ซื้อโครงการบ้านใหม่ก่อน แล้วผ่อนทีหลัง หรือ เก็บเงินก่อน ค่อยซื้อ ดีนะ?




หากเราว่ามองแบบทั่ว ๆ ไปแล้ว ดูเหมือนว่าในค่านิยมการซื้อขายบ้านหรือบ้านก่อนแล้วค่อยทยอยผ่อนนั้น  ก็จะเป็นทางเลือกที่คนส่วนมากนิยมทำกันทั่วไป และนั่นเป็นเพราะว่า โดยปกติทั่วไปแล้วบ้านหรือบ้านจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่หากเราจะรอซื้อเงินสดละก็ มูลค่าของบ้านนั้นจะสูงเกินจะเอื้อมถึงแน่นอน อีกทั้งในการที่เราเก็บเงินสดให้ได้มูลค่าหลักล้านนั้นก็ ไม่ได้เป็นเรื่องที่มันง่ายนักเลย แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าการเก็บเงินก่อนแล้ว และค่อยจะซื้อบ้านจะเป็นทางเลือกที่ผิดหลอก แต่ในทางกลับกันก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครหลายคนเช่นกัน นั่นก็เป็นเพราะว่า ดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านนั้นมีราคาสูงมาก และอาจสูงกว่า 2 เท่าของราคาบ้านด้วยซ้ำไป เช่น ซื้อบ้านในราคา 5 ล้านบาท แต่หากเราผ่อนแบบปกติไม่มีการรีไฟแนนซ์ และหรือไม่โปะเงินต้น ซึ่งผู้ซื้อจะต้องจ่ายยอดถึงรวมกัน 11 ล้านบาทเลย เท่ากับได้บ้านสองหลังแต่เราจ่ายเพียงหลังเดียวเท่านั้นถือว่าขาดทุนมาก

ถ้าหากมีศักยภาพที่เพียงพอที่จะเก็บเงินได้ไวเรา ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้เยอะ แถมการที่เราไม่เป็นหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะต้องเสียเวลาติดต่อในดำเนินการยุ่งยากไม่น้อยเลยทีเดียวอีกด้วย

ในการที่เราจะตัดสินใจว่าเราจะเป็นหนี้ก่อน หรือเราจะค่อย ๆ ทำการเก็บเงินไป จึงอาจจะไปขึ้นอยู่กับวิถีชีวิต และในความจำเป็น โดยศักยภาพทางการเงินของในแต่ละบุคคลนั้นๆ ไม่มีทางเลือกไหนถูกผิดแน่นอน และมีแต่เหมาะสมหรือไม่เท่านั้น โดยที่ระบบการเงินในทุกช่องทางก็ต่างออกแบบมาและเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นเองค่ะ

และจะว่าไปแล้วทั้งใน 2 กรณีนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวเลือกเท่านั้นเอง นอกจากนี้่ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ ให้เลือกให้เห็นอีกมาก เช่น ในบางคนก็เลือกที่จะซื้อที่ดินไว้ก่อน แล้วทิ้งไว้ 4-5 ปี จึงจะคิดสร้างบ้าน หรือในบางคนแม้เดิมทีที่ดินอาจจะตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่สะดวกเลย แต่ก็เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานก็ได้เกิดความเจริญค่อย ๆ เข้าถึง และมีมูลค่าที่ดินย่อมสูงขึ้นอีกด้วย เราอาจแบ่งขายที่ดินแล้วก็นำกำไรส่วนนั้นมาใช้ในสร้างบ้านก็ได้ เสมือนได้บ้านฟรีเลยค่

“เช่าตลอดชีพ ไม่คิดจะซื้อ” เราก็อาจเคยเห็นกรณีนี้ ก็จะเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ โดยผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ได้คิดเช่าบ้านตลอดชีพ โดยไม่คิดจะซื้อ นั้นก็เพราะหากนำตัวเลขทางการเงินมาวิเคราะห์แล้ว โดยสมมุติเทียบมูลค่ากับบ้านแล้ว หลังละ 5 ล้านบาท แต่หากเราผ่อนต้องจ่ายเดือนละ เดืนประมาณ 3 หมื่นบาท รวมยอดแล้ว 30 ปีก็เป็นเงิน 11 ล้านบาทเลย โดยผู้คนบางกลุ่มก็จึงคิดว่า ถ้าหากเขาเช่าบ้านเดือนละ 15,000 บาท ก็จะเท่ากับ เช่าปีละ 1.8 แสนบาท และนั่นก็หมายถึงว่า เขาสามารถเช่าบ้านได้นานถึง 61 ปี และแถมยังต้องจ่ายต่อเดือนน้อยกว่าอีกด้วยซ้ำไป

แล้วถ้าหากคุณกำลังอยู่ในวัย 25 ปีขึ้นไป ซึ่งตัวเลข 61 ปี ก็เป็นตัวเลขที่น่านำมาคิดทบทวน นั้นก็เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์เราก็มีชีวิตกันเพียง 70 ปีเท่านั้น และเมื่อตัดอายุช่วงวัยเรียนซึ่งได้มีพ่อแม่คอยเลี้ยงดู และชีวิตเราก็จะเหลือค่าเฉลี่ยเพียง 50 ปีเท่านั้น และเท่านั้น การเช่าบ้านมูลค่า 15,000 ต่อเดือน ก็จะจึงเป็นตัวเลขที่พอเพียงต่อการอยู่และอาศัยในช่วงที่ชีวิตที่เหลือแล้ว

ข้อดี ก็คือคุณจะสามารถเปลี่ยนโครงการบ้านใหม่ได้เรื่อย ๆ และคุณสามารถย้ายสถานที่ได้ตามที่คุณต้องการ และคุณก็ไม่ต้องวิตกกังวลกับทำเลที่ถูกทิ้งร้างไว้ และไม่จำเป็นต้องไปเสียค่าบำรุงรักษาบ้านเลยค่ะ เพราะในหน้าที่นี้ก็เป็นของผู้ให้เช่ารับผิดชอบไป และสุดท้ายแล้วเราทุกคนก็ต่างไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินใด ๆ เลยค่ะ

โดยเฉพาะยุคนี้แล้ว เป็นยุคที่ผู้คนโสดมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่เพียงลำพังมากขึ้น และไม่รู้จะเก็บบ้านไว้ให้ใครอีก เช่าตลอดชีพก็จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างจะมีอิสระมากกว่าตัวเลือกอื่น ๆ เลย แต่ในข้อดีก็ต่างจะมีข้อเสียอยู่เสมอ โดยจะเลือกวิธีไหน อยู่ที่ใจต้องการของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น