13 ตัวการที่ทำราคาขายบ้านตก
ถ้าท่านอยากจะขายบ้านให้ได้ราคา ก็ควรจะหลีกเลี่ยงตัวการที่ทำให้บ้านของท่านราคาตก วันนี้เว็บรอบรู้เรื่องขายบ้าน,โครงการบ้านใหม่เลยมาบอกข้อควรระวังเหล่านั้นกันค่ะ เพื่อที่ท่านจะได้ขายบ้านให้ได้ราคาดีตามที่ต้องการ..
ข้อ 1. ข้าวของเครื่องใช้ในครัวนั้นเก่าเกินไป
เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่ยังสวยคลาสสิกนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ชิ้นไหนที่เก่าหรือกำจัดคราบออกไม่ได้แล้ว ท่านควรจะเปลี่ยนซะ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ซื้อบ้านไม่อยากจะเปลี่ยนเครื่องครัวทั้งชุดเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ ดังนั้นท่านควรทำห้องครัวให้ดูเหมือนใหม่และยังใช้งานได้ดีอยู่ เพราะมันจะเพิ่มมูลค่าการขายได้อีกทางหนึ่งค่ะ
ข้อ2. การมองข้ามจุดเล็ก ๆ
ผู้ซื้อบ้านนั้นมักจะมีสายตาที่เฉียบแหลมที่มองเห็นในจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นท่านไม่ควรที่จะละเลยการทำความสะอาดส่วนต่างๆและการซ่อมแซมหน้าต่าง ตรวจสอบส่วนของไฟว่ายังใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ รวมไปถึงสิ่งของในบ้านด้วย เป็นการสื่อให้เห็นว่าเจ้าของบ้านนั้นดูแลรักษาบ้านเป็นอย่างดีจะช่วยให้ขายบ้านได้ง่ายขึ้นค่ะ
ข้อ3. ละเลยการทำความสะอาดอย่างจริงจัง
แม้กระทั่งซอกมุมเล็กๆที่สุดก็ยังสำคัญกับการขายบ้าน เพราะคนซื้อบ้านส่วนใหญ่ย่อมจะชั่งสังเกต ดังนั้นท่านควรจะทำความสะอาดทุกซอกมุมของบ้านให้ดี เช่น ซิงก์ล้างจาน ทุกจุดเล็กๆที่ซ่อนจากสายตา เพราะท่านคงไม่อยากพลาดการขายบ้านเพราะเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้แน่ค่ะ
ข้อ4. ตกแต่งแบบล้ำสมัยจนเกินพอดี
ซึ่งการตกแต่งนั้นเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว อย่าได้คิดว่าการตกแต่งแบบล้ำสมัยเข้าไว้คนอื่นจะต้องชอบ ดังนั้นควรแต่งให้พอดีไม่มากจนเกินไปเป็นกลางก็จะช่วยให้ท่านขายบ้านได้ง่ายขึ้นค่ะ
ข้อ5. เลือกพื้นผิวที่ทำความสะอาดยากเกินไป
เช่น เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เพราะหากว่าท่านเลือกไม่ดีนั่นหมายความว่าจะต้องเปลี่ยนยกชุดเลยทีเดียว ดังนั้นท่านควรจะรอบครอบในการการเลือกตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาเสียเงินและยังเสียเวลาในภายหลัง หรืออาจจะต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อท่านจะขายบ้าน
ข้อ6. ไม่สนใจในพื้นที่เล็กๆ
ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่า ห้องน้ำและห้องครัวนั้นคือจุดขายของบ้าน ดังนั้นท่านจึงห้ามละเลยพื้นที่เล็ก ๆ พวกนี้เดะขาด ยกตัวอย่างเช่นการเลือกใช้กระเบื้องให้เลือกชิ้นใหญ่ๆ จะช่วยทางจิตวิทยาในเรื่องของความรู้สึกว่าห้องครัวหรือห้องน้ำดูใหญ่ขึ้น จะทำให้ท่านขายบ้านได้ราคาดีหรือขายได้ง่ายขึ้นค่ะ
ข้อ7. ละเลยการดูแลส่วนของพื้นไม้
ยิ่งเป็นพื้นไม้นั้นต้องควรดูแลเป็นพิเศษ การที่ดูแลพื้นไม้อย่างผิดวิธีนั้น จะทำให้บ้านของท่านดูเก่าจนอาจส่งผลเสียเรื่องของราคาขายบ้านได้ ถ้าท่านไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนพื้นไม้ก็ควรจะดูแลรักษาพื้นไม้ให้อย่างถูกวิธี ซึ่งจะทำให้บ้านยังดูใหม่อยู่ต่ะ
ข้อ8. เลือกสีภายนอกได้แบบเพี้ยน ๆ
เพราะสีภายนอกนั้นคือสิ่งแรกๆที่ผู้ซื้อได้เห็นหรือสำผัส first impression ควรจะเลือกใช้สีให้เข้ากันกับตัวบ้าน
ข้อ9. ปลูกต้นไม้โดยไร้ซึ่งการวางแผน
การปลูกต้นไม้โดยที่ไม่วางแผนก่อนจะปลูกนั้นจะส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างไม่รู้จบ เช่น ปลูกต้นไม้ไว้ใกล้ใกล้ทางรถเข้า-ออกของบ้าน พอต้นไม้โตขึ้นมีโอกาสที่จะเบียดเข้ามาในพื้นนั้นๆได้และรากไม้อาจจะทำลายโครงสร้างบ้านใต้ดินของท่านได้ ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อการขายบ้านของท่านได้
ข้อ10. ละเลยประตูทางเข้าบ้าน
ลูกบิดเก่าๆตรงประตูทางเข้าที่ชำรุดหรือเต็มไปด้วยร่องรอย จะส่งผลให้ส่งผลให้บ้านดูไม่น่าซื้อ แล้วยังเป็นตัวเปิดสัญญาณเตือนให้ผู้ซื้อบ้านตรวจสอบอย่างเข้มงวดหาความชำรุดจุดอื่นๆในบ้านมากขึ้นซึ่งไม่ดีแน่ต่อการขายบ้านของท่าน
ข้อ11. คาดหวังว่าจะถอนทุนคืนจนเกินไป
อย่าได้คิดว่าท่านได้สร้างหรือเติมแต่งบ้านอะไรเพิ่มเติมแล้วจะได้เงินเพิ่มทุกสิ่งอย่างเพราะบางอย่างนั้น เช่น สร้างสระน้ำ ซึ่งในกรณีนี้ไม่เคยที่จะได้ทุนคืนกับมาไม่ว่าในกรณีไหน แถมอาจจะเป็นข้อเสียด้วยซ้ำไป
ข้อ12. ไม่ปรับเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เก่า ๆ หาข้อดีได้เพียงข้อเดียวคือดูคลาสสิก ส่วนที่เหลือนั้นเป็นข้อเสียทั้งหมด ท่านควรจะเปลี่ยนมันเสียบ้างเพราะนอกจากจะช่วยลดเงินค่าไฟแล้ว ยังช่วยเพิ่มราคาขายบ้านได้อีกด้วย
ข้อ13. การใช้สีที่ซับซ้อนจนเกินไป
อาจจะดูทันสมัยขึ้นหากท่านใช้สีผนังและขอบประตูที่ดูตัดกัน แต่หากเราไม่เก่งเรื่องคอนเซ็ปต์ด้านการใช้สี อาจทำให้คนที่เห็นบ้านของท่านดูน่ารำคาญตามากกว่าสวย ดังนั้นควรใช้สีเดียวกันตามปกติจะดูดีกว่า และยังทำให้บ้านดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น