อะไรบ้างที่ควรเช็คให้ดีก่อนขายโครงการบ้านใหม่ ??
ปัจจุบันในตลาดการขายบ้านนั้นมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง เพราะเหตุนั้นถ้าคุณเป็นคนที่คิดจะขายบ้าน ไม่ควรมองข้ามสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเพิ่มมูลค่าให้บ้านของเรา และยังทำให้เราสามารถขายออกได้เร็วมากขึ้น โดยเราควรจะดูแลและบำรุงรักษาให้บ้านอยู่ในสภาพเหมือนกับโครงการบ้านใหม่นั้นเอง และนอกจากนี้เจ้าของบ้านบางรายอาจจะจำเป็นต้องจ้างบริษัทนายหน้ามาเพื่อเป็นผู้ช่วย ในการที่เราจะขายบ้าน แต่ก่อนที่จะนำบ้านของเราขายบ้านทอดสู่ตลาดพวกเขาจะต้องเข้ามาสำรวจสภาพบ้านของเราโดยทั่วเสียก่อน และอาจมีการให้ปรับปรุงบางจุดเพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าบ้านเราให้มากขึ้นอย่างเช่น สิ่งที่จะต้องทำต่อไปนี้
ข้อที่ 1. ทำความสะอาดบ้าน
ความสะอาดนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเราปล่อยให้บ้านรกร้าง หรือเต็มไปด้วยคราบสกปรกและของใช้วางระเกะระกะไปหมดละก็ ทำให้การขายนั้นเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้บ้านของเราดูไม่น่าอยู่แล้ว ยังทำให้บ้านดูแคบอีกด้วย และอาจเป็นเพิ่มภาระให้กับผู้ซื้อ ที่จะต้องทำการจัดการปรับปรุงสภาพบ้านใหม่ ดังนั้นแล้วจึงมีความจำเป็นอย่างมากเลยที่เจ้าของบ้านจะต้องจัดการข้าวของให้เรียบร้อย และทำการรักษาบ้านให้สะอาด โดยอาจจะจ้างคนให้มาทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือถ้าอยากประหยัดงบละก็ค่อย ๆ ลงมือทำด้วยตัวเองไปทีละนิดก็ได้เช่นกันคะ
ข้อที่ 2. จัดกลุ่มเฟอร์นิเจอร์
เจ้าของบ้านหลาย ๆ คนคงคิดว่าการจัดเฟอร์นิเจอร์ให้ชิดฝาผนังนั้น จะช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้ต่างๆ งานให้กับบ้าน และยังลวงตาให้บ้านดูกว้างขวางมากขึ้นอีก แต่ในความเป็นจริงแล้ววิธีนี้อาจจะใช้ไม่ผลนัก เพราะการที่เรานำเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านไปตั้งไว้ชิดกำแพงจะเหมือนไม่มีคนใช้งาน จะทำให้บ้านของเราดูร้าง ไม่มีชีวิตชีวา และไม่ดึงดูดที่จะทำให้ลูกค้าสนใจซื้อ เพราะฉะนั้นเราควรเปลี่ยนจากวิธีดังกล่าวเป็นการนำเฟอร์นิเจอร์ชนิดเดียวกันมาไว้รวมกัน หรือการใช้งานที่คล้ายคลึงกันมารวมไว้ในพื้นที่เดียวกันดีกว่า จะช่วยทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ไม่ร้างจนเกินไป และเป็นสัญลักษณ์ที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นยังพร้อมใช้งานอยู่ด้วยคะ
ข้อที่ 3. ใช้สีพื้นเรียบ ๆ
ในการเลือกธีมสีให้กับบ้านนั้นควรเป็นสีพื้น ๆ เรียบ ๆ ที่ดูไม่ฉูดฉาดจนเกินไป อาจอย่างเช่น สีขาว สีเบจ สีครีม โดยสีที่กล่าวมานี้นอกจากจะช่วยให้บ้านดูสะอาดตาและพื้นที่กว้างขึ้นแล้ว ยังสะดวกในด้านการตกแต่งและทาสีใหม่ส่วนอื่น ๆอีกด้วย อย่างเช่น ขอบประตู กรอบหน้าต่าง ๆ หรือคานไม้บนเพดานควรใช้สีเข้มนั้นเอง เพื่อช่วยสร้างความโดดเด่นและดูน่าสนใจ โดยอย่าใช้สีฉูดฉาดมากเกินไปกับบ้านที่เราต้องการประกาศขาย เพราะเจ้าของใหม่จะนำไปปรับปรุงตกแต่งได้ยากกว่าเดิม จนไม่อยากซื้อเลยไปเลยก็ได้คะ
ข้อที่ 4. เพิ่มความสว่าง
บ้านเราถ้าจะให้ดีควรมีแสงสว่างที่เพียงพอ และต้องมีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี ฉะนั้นแล้วนอกจากการตรวจเช็กตำแหน่งของประตูและหน้าต่างแล้ว เรายังควรเช็กตำแหน่งของหลอดไฟด้วยเช่นกัน โดยตำแหน่งที่เหมาะสมและช่วยให้บ้านสว่างมากขึ้นก็คือ บริเวณมุมอับ รอบ ๆ ห้อง และกลางห้องนั้นเอง ในจุดดังกล่าวนั้นควรมีหลอดไฟที่ให้แสงสว่างทั่วถึงคะ
ข้อที่ 5. การตกแต่งผนัง
บ้านของเรานั้นมักจะมีล่องรอยการ เจาะ ตอก หรือติดแปะของตกแต่งผนังของอุปกรณ์และของตกแต่งต่างๆ โดยเมื่อราเอาอุปกรณ์หรือของตกแต่งเหล่านั้นออกมาแล้วมักจะมีรอยตำหนิปรากฏอยู่ ในส่วนนี้นี่แหละที่จะทำให้ราคาบ้านลดลงไปมาก ดังนั้นก่อนที่เราจะประกาศขายควรตกแต่งผนังห้องของบ้านให้เหมือนเดิมเสียก่อน ทั้งรอยตะปู กาว น็อต เป็นต้น นอกจากเราอาจจะเปลี่ยนตำแหน่งของตกแต่งให้อยู่สูงขึ้น เพื่อดึงดูดสายตาและความสนใจให้ไปที่ภาพมากกว่ารอยตำหนิต่างๆ ที่บริเณหลังห้องของเรา หรือไม่อย่างนั้น ก็ตกแต่งจุดบกพร่องเหล่านั้นเสียใหม่ให้หมด ให้ไม่มีร่องรอยก็ได้เช่นกันคะ
ข้อที่ 6. เพิ่มสีเขียว
การที่เราจะเพิ่มสีเขียวให้กับบ้านนั้นก็จะมีการปลูกต้นไม้ หรือตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ให้ผลดีกับการขายบ้านมาก ๆ ด้วย เพราะสีสันต่าง ๆ ของต้นไม้ที่เราปลูกนั้นเมื่อนำมาวางไว้ในบ้าน ช่วยให้ผู้ซื้อรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลาย และใกล้ชิดกับบ้านมากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ในการตกแต่งก็ไม่ต้องจำเป็นต้องใช้ดอกไม้ราคาแพงมากนั้น เพียงแค่นำดอกไม้ตามฤดูนั้นๆ ปักใส่แจกัน หรือไม่ก็นำไม้พุ่มเล็ก ๆ มาวางไว้ก็น่าจะพอแล้ว แต่ถ้าหากสามารถตกแต่งให้สวนสวยได้ ก็จะช่วยดึงดูดผู้ที่จะซื้อได้มากขึ้น อย่างเช่น ลองปูหญ้าหรือปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาสักหน่อยก็ได้คะ
ข้อที่ 7. จัดห้องให้น่านอน
ในส่วนของห้องนอนเราควรที่จะเลือกสีอ่อน ๆ เพื่อให้พอเหมาะกับการพักผ่อน หรือเราอาจจะใช้วิธีการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนแทนก็ได้ ก็อย่างเช่น พวกตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ โดยเราควรเลือกแบบเรียบ ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีลวดลายมากนัก เพราะความชอบของลูกผู้ซื้อนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเลือกแบบกลาง ๆ เอาไว้ก่อนจะดีกว่า นอกจากนี้ก็อย่าลืมใส่ใจกับการจัดวางและตกแต่งให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน จะได้ดูน่าอยู่และดึงดูดลูผู้ที่จะมาซื้อให้ตัดสินใจง่ายขึ้นนะคะ
ข้อที่ 8. ปรับปรุงให้เสร็จก่อนขาย
ถ้าหากภายในบ้านมีบางจุดหรือสิ่งของที่อยู่ในช่วงทำเรากำลังปรับปรุง อย่างเช่น ต่อเติมห้อง ตกแต่งเพิ่มเติม เราควรดำเนินให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อนประกาศขายคะ เพราะในช่วงการปรับปรุงคงเป็นภาพที่ไม่น่าดูสำหรับผู้ซื้อสักเท่าไหร่นะคะ และที่สำคัญจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่า บ้านเก่ากว่าความเป็นจริงคะ รวมถึงส่งผลให้ขั้นตอนการซื้อขายเป็นไปได้ยาก และใช้เวลานานขึ้นคะ
ทางเว็บ รอบรู้เรื่องบ้าน,โครงการบ้านใหม่ ขอขอบคุณภาพประกอบจากภ istockphoto.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น