จะซื้อโครงการบ้านใหม่หรือรถก่อนดี!!
เว็บรอบรู้เรื่องขายบ้าน,โครงการบ้านใหม่ได้เชื่อว่าความฝันของคนส่วนใหญ่นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นอยู่ 2เรื่อง คือไม่บ้านหรือโครงการบ้านใหม่ กับ รถ ที่เป็นปัจจัยสำคัญหลักๆในการดำรงชีวิตของคนยุคปัจจุบัน มันอาจจะดูร่ำรวยมากหากว่าบางคนสามารถที่จะซื้อได้ทั้ง 2 อย่างในเวลาพร้อมๆกัน แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราๆส่วนใหญ่คงไม่ร่ำรวยเพียงพอที่จะทำได้ขนาดนั้น เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำแบบแน่นอนนั้น ต้องใช้จ่ายเงินอย่างจำกัด ทำให้ต้องตัดใจเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น หลายท่านจึงเกิดข้อสงสัยในใจว่า! ถ้าหากจะเป็นหนี้ทั้งทีแล้วควรจะซื้ออะไรก่อนกันระหว่าง “บ้าน,โครงการบ้านใหม่” กับ “รถ”??
วันนี้เว็บรอบรู้เรื่องขายบ้าน,โครงการบ้านใหม่ของเราเลยจะมาขอพูดถึงข้อแตกต่างระหว่างการซื้อบ้านโครงการบ้านใหม่กับรถอะไรก่อน
ข้อ1. ในความจำเป็นในชีวิตประจำวัน หากในอาชีพของท่านจำเป็นที่จะต้องใช้รถแล้วล่ะก็ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคือ “รถ” นั้นเป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้ของท่าน เช่น เป็นเซลล์ที่จะต้องขับรถเดินทางไปหาลูกค้า อย่างประเด็นนี้รถย่อมจะมีความจำเป็นกว่าบ้านหรือโครงการบ้านใหม่อย่างแน่นอน หากแต่ว่าท่านไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องใช้รถ สามารถที่จะนั่งรถเมล์หรือรถไฟฟ้าBTS,MRTเดินทางไปทำงานได้ หากได้บ้านหรือโครงการบ้านใหม่ใกล้ที่ทำงานซักห้องก็จะช่วยให้ท่านประหยัดทั้งเวลาเดินทางและยังประหยัดเงินค่าเดินทางอีกด้วย อย่างเหตุการนี้นี้ก็ถือว่าบ้านหรือโครงการบ้านใหม่มีความจำเป็นมากกว่ารถค่ะ
ข้อ2. ราคาเมื่อท่านอยากจะขายต่อ การซื้อขายบ้านก็นับเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งนะค่ะ เพราะหากเมื่อเวลาผ่านไป ราคาขายบ้านมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆทุกปี (ปล. ราคาขายบ้านจะขึ้นมากหรือจะขึ้นน้อยนั้นขึ้นอยู่กับทำเลของบ้าน) แต่การที่ท่านจะซื้อขายรถนั้นราคาขายของรถมีแต่ตกไปมากกว่าถึง 10-15% ต่อปีเลยทีเดียว หรือหากว่าเวลาผ่านไปเพียง 5 ปีเท่านั้น ราคาของรถจะตกลงเกินครึ่งนึงค่ะ และยังจะขึ้นอยู่กับสภาพของรถและยี่ห้อของรถด้วย และไม่มีทางขายรถต่อในราคาที่มากกว่าตอนซื้อรถมาอย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นรถโบราณหายากชนิดที่ว่าเข้าข่ายสินค้าอนุรักษ์นิยม (Antique) หรือว่ารถคลาสสิคของสะสมที่มีจำนวนจำกัดจึงจะมีราคาเพิ่มขึ้นได้เท่านันค่ะ
ข้อ3. ค่าใช้จ่ายรายทาง เมื่อท่านคิดจะซื้อบ้านหรือโครงการบ้านใหม่นั้น เงินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นคงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของค่าธรรมเนียมต่างๆ ถ้าหากเป็นการซื้อรถนั้นล่ะก็ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็คือค่าน้ำมัน, ค่าประกันภัย, ค่าพรบ., ค่าต่อทะเบียนรถ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่หนีไม่พ้นทั้ง 2 อย่างสิ่งนั้นคือ “เงินในส่วนค่าบำรุงรักษา” ซึ่งหากเป็นส่วนของรถนั้นมักจะเจอในส่วนค่าซ่อมบำรุงหรือต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแทบจะทุกปีค่ะเป็นจำนวนเงินประมาณหลักพันบาท และหากเป็นส่วนบ้านก็จะเจอในส่วนของค่าซ่อมครั้งใหญ่ในบางครั้งอาจนั้นเป็นเงินถึงหลักแสนบาท แต่ค่าซ่อมบ้านนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักนานๆจะมีสักที อาจจะ 5-6 ปีครั้งหนึ่งค่ะ
ข้อ4. สินเชื่อ การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านหรือโครงการบ้านใหม่นั้นส่วนใหญ่มักเป็นการปล่อยกู้ระยะยาว 10 ปีขึ้นไปค่ะ ซึ่งอัดตราดอกเบี้ยในการกู้ซื้อบ้านนั้นค่อนข้างสูง ประมาณ 6-8% ต่อปีเลยค่ะ ทำให้ใครหลายๆคนส่วนมากกลัวการที่จะกู้เงินซื้อบ้านหรือโครงการบ้านใหม่ เพราะว่าต้องผ่อนเงินกันไปอย่างยาวนานค่ะ เงินที่ผ่อนไปส่วนใหญ่นั้นก็เป็นดอกเบี้ยทั้งนั้นเลย แต่หากว่าเป็นการซื้อรถแล้วล่ะก็ที่ระยะเวลาการผ่อนนั้นจะไม่เกิน 6 ปีค่ะ และดอกเบี้ยเพียง 2-3% ต่อปีเท่านั้นซึ่งน้อยกว่าบ้านเป็นเท่าตัวเลย
ข้อ5. วิธีการคิดอัตราดอกเบี้ย ในการกู้ซื้อบ้านหรือโครงการบ้านใหม่นั้นเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นและลดดอกไปเรื่อยๆค่ะ เช่น หากว่าโปะเกินจำนวนเงินที่ผ่อนไป เมื่อเงินต้นลดแล้ว จำนวนเงินที่เป็นส่วนของดอกเบี้ยก็จะลดตามไปด้วยค่ะ เพราะว่าดอกเบี้ยคิดตามยอดเงินต้นที่เหลืออยู่นั่นเอง ซึ่งอัตราจะลดลงไปตามลำดับจากการผ่อนชำระเงินทุกงวดไป แต่หากว่าเป็นการกู้เพื่อซื้อรถยนต์ล่ะก็ ที่จะเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอดระยะเวลาของการกู้ ทำให้การโปะเงินนั้นไม่ได้มีผลใดๆให้ดอกเบี้ยลดลงตาม มีประโยชน์แค่เพียงช่วยให้ระยะเวลาของการผ่อนสั้นลงเท่านั้นเองค่ะ
ทางเว็บหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะได้ใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยประกอบการตัดสินใจได้อย่างรอบครอบและง่ายขึ้นค่ะ^^ส่วนตอนหน้าจะมีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับเรื่องขายบ้านหรือโครงการบ้านใหม่สามารถติดตามได้ที่เว็บนี้เช่นเคยค่ะ...
เว็บรอบรู้เรื่องขายบ้าน,โครงการบ้านใหม่เรียบเรียงข้อมูลจาก เว็บterrabkk
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น